ขั้นตอน-สาธิตวิธีการทำ


          ในการฝึกมวยไทยจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจหลักการพื้นฐานก่อน เพราะเป็นทักษะเบื้องต้นการเรียนแม่ไม้มวยไทยและกลมวย เพื่อนำไปสู่การมีทักษะในขั้นสูง ซึ่งมีกระบวนการพื้นฐานดังนี้

1. หมัดงัด หมายถึง เริ่มต้นจากท่าจรดมวยขวาแล้วย่อตัวลง เท้าแยกห่าง ย่อเข่าซ้ายลง พร้อมกับลดหมัดซ้ายลง และหงายหมัดขึ้นแล้วบิดลำตัวไปทางขวาของตนพร้อมกับดึงกระตุกหมัดซ้ายขึ้นตรง

2. หมัดตรง หมายถึง การชกหมัดออกไปจากไหล่ให้เป้นแนววิถีทางตรงไปสู่เป้าหมาย

3. หมัดเสย หมายถึง ชกหมัดในระยะประชิดตัว ทิศทางการเคลื่อนที่จากล่างขึ้นบน

4. หมัดตวัด หมายถึง การชกหมัดโดยการงอและเกร็งข้อศอกไว้ให้หมัดออกไปเป็นวิถีทางโค้งอาจคว่ำหรือตั้งหมัดก็ได้

5. ศอกตี หมายถึง การพบข้อศอกตีเฉียงลงกระเป้าหมาย สามารถตีได้ทั้งซ้ายและขวา

6. ศอกตัด หมายถึง การพับข้อศอกขึ้นตีศอกทิศทางขนานกับพื้น

7. ศอกงัด หมายถึง ศอกที่เราใช้ตีเสยขึ้นหรืองัดขึ้น เป้าหมายที่ปลายค้าง คิ้วและใบหน้า

8. ศอกสับ หมายถึง ศอกที่ใช้สับลงบนคู่ต่อสู้ที่เข้ากอด จะศอกเดี่ยวหรือคู่ ก็ตาม บริเวณใบหน้าจะต้องเร็วและแรง แต่คู่ต่อสู้ต้องเตี้ยกว่า

9. เข่าเฉียง หมายถึง การตีเข่าขึ้นเฉียงทำมุม กับลำตัวคู่ต่อสู้ เป้าหมายบริเวณชายโครง

10. เข่าโค้ง หมายถึง เป็นเข่าที่ผู้ใช้จะต้องบิดสะโพกคว่ำลงให้ทิศทางของเข่าลอยโค้งจากบนลงปะทะเป้าหมายให้ปลายเท้าเหยียดเป็นเส้นตรงกับขาและเข่า

11. เข่าตรง หมายถึง เข่าที่เคลื่อนที่จากจุดเริ่มไปปะทะเป้าหมายแนววิถีทางตรงดิ่ง

12. เข่าลอย หมายถึง การตีเข่าขึ้นไปตรงๆ โดยการกระโดดตัวลอยพ้นจากพื้น

13. เตะตรง หมายถึง การเตะให้วิถีขึ้นตรงจากพื้นสู่เป้าหมาย

14. เตะตัด หมายถึง การเตะที่มีวิถีทางโค้งขึ้นเล็กน้อยแล้วตัดขนานกับไปพื้น

15. เตะเฉียง หมายถึง การเตะเฉียงจากพื้นสุ่เป้าหมายบริเวณชายโครง ลำตัวหรือปลายคางคู่ต่อสู้

16. เตะตวัด หมายถึง การเตะเหวี่ยงแล้วตวัดเท้าให้ส้นเท้าปะทะเป้าหมาย





  • การใช้ฟุตเวิร์คในการชกมวย
          Footwork (ฟุตเวิร์ค) หรือการก้าวย่างไปมาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการชกมวย และนี่คือวิธีการใช้ฟุตเวิร์คอย่างมืออาชีพที่นักมวยทุกคนต้องรุ้ไว้ เพราะกำลังอย่างเดียวไม่ช่วยให้ชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่หากเป็นที่ชั้งเชิงที่สร้างความได้เปรียบ มาดูวิธีการใช้ฟุตเวิร์คกัน

1. เคลื่อนไหวสั้งๆแต่เร็วและยืดหยุ่น Narrow Stance
     เป็นการเคลื่อนไหวเล็กๆ เคลื่อนไหวแบบสั้นๆแต่เร็วและยืดหยุ่น ทั้งนี้เพื่อให้เรารุกและหลบคู่ต่อสู้ได้หลากหลายรูปแบบ เพราะถ้าหากเคลื่อไหวแบบยาวๆคู่ต่อสู้จะเดาทางได้ง่ายและเราไม่สารถมี Balance ที่ดีจากการเคลื่อนไหวยาวๆได้อีกด้วย

2. กระโดดเชือก Jump Rope
     เพราะการกระโดดเชือกจะทำให้ร่างกายเรียนรู้จังหวะเคลื่อนไหวอย่างดี ซึ่งหากเรากระโดดเชือกเข้าขั้นมืออาชีพแล้ว เพียงเรากระโดดสูงจากพื้นแค่ไม่กี่เซนติเมตร เราก็สามารถให้เชือกผ่านไปได้ นอกจากนี้การกระโดดเชือกยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแขนและไหล่ ซึ่งช่วยให้เราใช้วิธีต่อยให้แรงได้ดีขึ้น ผู้คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่าเป็นนักมวยจะทำได้แค่การเคลื่อนไหวที่รุนแรง แต่ที่จริงการเคลื่อนไหวแบบละเอียดอ่อนเป็นสิ่งที่สำคัยมากสำหรับนักมวย

3. ยืดหลังตรง 
     เพราะการยืดหลังตรงตั้งฉากกับพื้นจะทำให้เรามี Balance ที่ดี และทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวหลบคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วอีกด้วย แต่เราไม่สามารถยิดตัวตรงได้ตลอดเวลา ในเวลาที่เราเป็นฝ่ายตั้งรับ การเก็บตัวและตั้งการืดเป็นสิ่งที่เราควรจะทำ

4. ห้ามใช้ส้นเท้าในการเคลื่อนไหว
     การใช้ส้นจะทำให้เรามี Balance ที่ไม่ดี และง่ายต่อการถูกชกให้ล้ม เราควรใช้ปลายเท้าในการส่งแรงเคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆ

5. เคลื่อนไหวเป็นวงกลมและเท้าด้านหนึ่งอยู่ด้านหน้า
     เราควรเคลื่อนฟุตเวิร์คเป็นวงกลมโดยให้เท้าหนึ่งอยู่ด้านหน้า เพราะการที่มีเท้าด้านหนึ่งอยู่ด้านหน้าและหลังจะทำให้เราออกแรงหมัดได้แรงและมี Balance ที่ดี แต่ถ้าเราเคลื่อนไหวโดยใช้เท้าเป็นแนวระนาบเดียวกันมันจะทำให้เราไม่มีแรงออกหมัดและโดนชกล้มง่ายๆได้ในเวลาเดียวกัน

6. จังหวะคือตัวชี้เป็นชี้ตายของฟุตเวิร์ค
     ข้อนี้ก็คลายกับดนตรีที่ว่าโน๊ตเพี้ยนไม่สำคัญเท่ากับจังหวะที่เพี้ยน ดังนั้นนักมวยที่ดีมักจะต้องเคลื่อนไหวตลอดเพื่อให้เกิดจังหวะหรือ Rhythm ที่ดีมากกว่าการหาตำแหน่งที่เขาจะเดินไปใน Ring ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตุว่านักมวยเก่งๆหลายคนมักมีพรสวรรค์ทางด้านการเล่นดนตรีและการเต้น






สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
รูปภาพ โดย Uknowmuaythai อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.Uknowmuaythai.com.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น